คุณพ่อแม่มีบุตรยากต้องกินอาหารอะไรบ้าง
โดยปกติแล้วคู่สามีภรรยาที่มีเพศสัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอโดยไม่คุมกำเนิด จะมีโอกาสถึง 90% ที่สามารถมีบุตรได้เองภายใน 1 ปี ดังนั้นหากคู่ไหนที่ปฏิบัติภารกิจกันมาถึง 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตั้งครรภ์ได้ง่าย ๆ แสดงว่า เข้าข่ายมีภาวะเสี่ยงมีบุตรยาก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่อยากตั้งครรภ์หรืออยากมีลูก คงต้องลองให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารให้มากขึ้น เพื่อบำรุงร่างกายและเพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบสืบพันธุ์เพื่อลดภาวะการมีบุตรยากด้วยตนเองในช่วงเริ่มต้น
มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ Frontier in Public Health เมื่อปี 2018 ศึกษาถึงผลของการทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการที่จะส่งผลต่อโอกาสในการตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้น (Influence of Diet on Fertility) โดย "โปรตีน" เป็นสารอาหารหลักที่ขาดไม่ได้ ที่ช่วยบำรุงเซลล์ไข่ ช่วยให้ไข่ตกปกติ และสำหรับคนที่ทำเด็กหลอดแก้ว การทานโปรตีนเพิ่มขึ้นช่วยเพิ่มอัตราความสำเสร็จในการตั้งครรภ์อีกด้วย
ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ที่มีบุตรยากต้องเลือกทานโปรตีนจากแหล่งที่ให้โปรตีนชั้นดี ให้โปรตีนสูง และปลอดภัย คนบำรุงเตรียมท้องควรเลือกทานโปรตีนจากพืช (Plant-Based Protein) โดยงานวิจัยศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ทาน โปรตีนจากพืช ไขมันดี และวิตามินแร่ธาตุครบถ้วนมีความเสี่ยงเรื่องภาวะไม่ตกไข่ลดลงถึง 66% ดังนี้คุณแม่ทั้งหลายที่เตรียมตัวตั้งครรภ์หรืออยู่ในภาวะมีบุตรยาก อาจต้องเพิ่มการทาน โปรตีนจากพืช ลดคาร์บขัดสี งดหวานเด็ดขาด ทานกรดไขมันดี เน้นสารแอนตี้ออกซิแดนท์
หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่ต้องการเริ่มดูแลตัวเองเพื่อลดภาวการณ์มีบุตรยาก สามารถเริ่มจากการหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงและไขมันทรานส์ เช่น เนยเทียม ของทอด ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ และขนมอบกรอบ รวมถึงเลือกน้ำมันดี ไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันรำข้าว เนื่องจากอาหารไขมันสูงเป็นสาเหตุของโรคอ้วน ส่งผลให้เกิดภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่สมดุล การตกไข่ไม่ปกติ จึงทำให้การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ยากยิ่งขึ้น ลดน้ำตาลและแป้งขัดขาว เพื่อความคุมระบบน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน
ควรเลือกรับประทาน ถั่วและธัญพืช เพื่อเพิ่มโปรตีนที่ดี รวมถึงธาตุเหล็ก การรับประทานโปรตีนร่วมกับธาตุเหล็กจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับมดลูก อีกทั้งยังช่วยผลิตไข่ที่มีคุณภาพด้วย เลือกรับประทานผักใบเขียว เพื่อเพิ่มโฟเลตและวิตามินบี ช่วยเร่งการตกไข่ ส่งผลให้มีโอกาสในการตั้งครรภ์เพิ่มมาก ดื่มนมและโยเกิร์ต เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมเพียงพอและลดความเสี่ยงการเกิดภาวะกระดูกพรุน
ส่วนอาหารของคุณพ่อคุณแม่ที่มีบุตรยาก อาหารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความเเข็งแรง กินอาหารเหล่านี้สัก 1-2 เดือน รับรองอสุจิและไข่ของทุกคนจะแข็งแรงแน่นอน
- หอยนางรม เพราะในหอยนางรมอุดมไปด้วยสังกะสี ที่จะช่วยเพิ่มจำนวนอสุจิ และทำให้อสุจิแข็งแรงขึ้น หอยนางรมนั้นเหมาะทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เพราะมีโปรตีนสูง มีวิตามินทั้งดี ซี และบี12 แถมยังมีธาตุเหล็ก ทองแดง และเซเลเนียมอีกด้วย
- ประเภทเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์สีแดง เพราะมีสังกะสีที่ช่วยทำให้จำนวนอสุจิเพิ่มมากขึ้นและแข็งแรงขึ้น ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพอาจจะไม่มากเท่าหอยนางรม แต่ก็เป็นอาหารที่กินได้บ่อยกว่า ย่อมช่วยให้คุณผู้ชายมีอสุจิที่แข็งแรงขึ้นได้ นอกจากนี้ ส่วนคุณแม่ควรทานแซลมอน มีโปรตีนสูง เพิ่มกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยปรับระดับฮอร์โมนให้สมดุลและเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะสืบพันธุ์
- ไข่ การรับประทานไข่เป็นประจำจะช่วยให้อสุจิของคุณพ่อแข็งแรงขึ้น เพราะไข่อุดมไปด้วยโปรตีน และยังมีวิตามินอี ช่วยบำรุงรักษาเนื้อเยื่อของลูกอัณฑะไม่ให้เสื่อมเร็ว รวมทั้งยังเพิ่มปริมาณอสุจิ เสริมศักยภาพของภาวะเจริญพันธุ์ด้วย จะเลือกกินเป็น ไข่ต้ม ไข่ลวก ไข่ดาว หรือไข่ทอด ก็ได้
- ถั่ว เพราะถั่วอุดมไปด้วยสังกะสีและวิตามินอี การกินถั่วเป็นประจำจะทำให้ผู้ชายมีความสมบูรณ์ในภาวะการเจริญพันธุ์ มีอสุจิแข็งแรง นอกจากนี้ถั่วยังมีโปรตีน โอเมก้า3 ซิงค์ และวิตามินอี ซึ่งช่วยทั้งเรื่องปริมาณและคุณภาพของอสุจิของคุณพ่อได้ กินถั่วเพียงวันละ 2 กำมือ จะทำให้อสุจิของคุณแข็งแรงมากขึ้น และอีกอย่างคือ เมล็ดฟักทอง มีธาตุเหล็กสูง ซึ่งเป็นธาตุเหล็กจากพืช จึงดูดซึมได้ดีกว่าธาตุเหล็กจากสัตว์ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับมดลูกของคุณแม่ได้
- ประเภทผัก ได้แก่ บร็อกโคลี เป็นผักที่มีโฟลิกสูง ช่วยเสริมสร้างเซลล์และบำรุงอสุจิของคุณพ่อ ทำให้จำนวนอสุจิเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยเพิ่มความอึด เพิ่มสมรรถภาพทำให้ไม่เหนื่อยเร็วอีกด้วย, ผักโขม มีโฟเลตสูง ซึ่งโฟเลตมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการตั้งครรภ์ของคุณแม่ ช่วยป้องกันไม่ให้ทารกในครรภ์พิการ รวมถึงช่วยกระตุ้นร่างกายให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้การรับประทานผักใบเขียวเป็นประจำ จะช่วยให้ได้รับเส้นใยอาหารอย่างเพียงพอ ลดปัญหาการขับถ่ายที่ผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้
, ประเภทผลไม้ อะโวคาโด ผลไม้ที่มีไขมันดีสูงซึ่งเป็นกลุ่มไขมันที่ร่างกายต้องการและมีประโยชน์ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีความพร้อมในการตั้งครรภ์, กล้วยหอม เป็นแหล่งของโพแทสเซียมและวิตามินบี 6 ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหาย รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญพันธุ์อีกด้วย
นอกจากนี้ ว่าที่คุณแม่ผู้มีบุตรยากควรต้องเสริมด้วยวิตามินอีกด้วย กับ 7 วิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ แก้ปัญหามีบุตรยากได้ ดังนี้
- กรดโฟลิก วิตามินที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของผู้ที่ต้องการตั้งครรภ์ แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์ โดยควรรับประทานกรดโฟลิกเพิ่มเฉลี่ยวันละ 400 มิลลิกรัมต่อวัน ล่วงหน้าประมาณ 1-3 เดือน เพื่อช่วยป้องกันภาวะซีดหรือโลหิตจางที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อตั้งครรภ์
- วิตามินซี ช่วยลดภาวะเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันโรคหวัด
- สังกะสี ทำให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ไข่ที่ผลิตออกมาจากรังไข่มีคุณภาพ
- วิตามินบี 6 ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในคุณแม่ตั้งครรภ์ได้
- ธาตุเหล็ก ลดภาวะโลหิตจาง ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมสำหรับการมีบุตร
- วิตามินบี 12 มีส่วนในการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และมีส่วนช่วยทางด้านสุขภาพและความรู้สึกทางเพศ
- วิตามินบี 3 เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ คุณพ่อคุณแม่ที่พยายามตั้งครรภ์ ควรลดปริมาณการดื่มชา กาแฟ และน้ำอัดลมซึ่งมีน้ำตาลเป็นปริมาณมาก น้ำตาลเป็นอนุมูลอิสระที่จะไปทำลายเซลล์ ทำให้แก่ ทำให้เซลล์ไข่เสื่อม และด้อยคุณภาพ การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุในการเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ PCOS หากเกิดภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) ซึ่งจะส่งผลให้ไข่ไม่ตกเรื้อรัง ไข่ใบเล็ก ด้อยคุณภาพ
นอกจากนี้ ควรเลือกดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอแทนชา กาแฟ และน้ำอัดลม งดแอลกอฮอล์และเลิกสูบบุหรี่ เนื่องจากทั้งแอลกอฮอล์และบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย การรับประทานอาหารที่หลากหลายและมีประโยขน์ อุดมด้วยคุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง คาเฟอีน แอลกอฮอล์ และอาหารปนเปื้อนสารเคมี จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์พร้อมที่จะตั้งครรภ์ตามแผนที่ได้วางเอาไว้ และที่ขาดไม่ได้เช่นกัน คือ ควรทำจิตใจให้สบาย ไม่สร้างความกดดันหรือวิตกกังวลมากจนเกินไป จนเกิดความเครียดทางจิตใจ อันเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการมีบุตรยากเช่นกัน
แต่ถ้าลองทำหมดทุกวิธีและกินอาหารตามเคล็ดลับนี้หมดแล้วยังประสบภาวะมีบุตรยากอยู่ละก็ ขอแนะนำให้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่ช่วยรักษาการมีบุตรยากที่สามารถรับคำปรึกษาจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมากมาย เช่น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์มากมายที่เข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญในวิธีแก้มีบุตรยาก เช่น การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง หรือที่เรียกว่า IUI , ICSI หรืออิ๊กซี่ วิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้มีบุตรยากและมีการพูดถึงมาก หลายคนคงจะคุ้นหูกับวิธีการทำเด็กหลอดแก้วที่เรียกว่า IVF โดยการนำไข่และเชื้ออสุจิที่สมบูรณ์ออกมาผสมด้านนอกหรือในจานแก้วที่มีสารเลี้ยงตัวอ่อนทำให้เกิดการปฏิสนธิ จากนั้นจะเกิดตัวอ่อนในระยะที่สมบูรณ์ พร้อมนำกลับไปใส่ในโพรงมดลูกเพื่อฝังตัวและเติบโตในครรภ์ พร้อมที่จะตั้งครรภ์ต่อไป นอกจากนี้ก็จะมีวิธี IUI และ ICSI หรืออิ๊กซี่อีกด้วย
อ้างอิง
https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3
https://www.posttoday.com/life/healthy/657676
https://bit.ly/3a8kKmT
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาภาวะมีบุตรยาก
กับศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากจินตบุตร