เปิดเมนูอาหารเพิ่มพลังอสุจิ สำหรับคุณพ่อผู้มีบุตรยาก
อสุจิเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของคุณพ่อที่อยากมีลูกจะต้องพร้อมยิง ซึ่งเหล่าคุณพ่อควรจะต้องเตรียมพร้อมคุณภาพของอสุจิให้ดีเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ของคุณแม่ได้ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับอสุจิกันก่อนว่าสำคัญอย่างไรบ้าง
น้ำเชื้อหรืออสุจิ (semen) คือเซลล์สืบพันธุ์ของเพศชายที่ออกจากร่างกายผ่านการหลั่งขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งในการหลั่งแต่ละครั้งจะมีจำนวนอสุจิอยู่ที่ประมาณ 300-500 ล้านตัว แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะมีความแข็งแรงจนสามารถเดินทางไปจนถึงรังไข่และเกิดการปฏิสนธิจนตั้งครรภ์ได้ อสุจิตัวที่อ่อนแออาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น มีการผิดปกติของลูกอัณฑะแต่กำเนิด มีการใช้ยา เคมีบำบัด และการฉายแสง ดื่มสุรา สูบบุหรี่ มีความเครียด มีน้ำหนักตัวมากเกินไป และหักโหมออกกำลังกายเกินพอดี
น้ำเชื้อหรือน้ำอสุจิที่หลั่งออกมาจากอวัยวะเพศชาย ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นเซลล์ ได้แก่ ตัวอสุจิ (spermatozoa) และส่วนที่เป็นของเหลว (seminal fluid) ซึ่งจะมีสารต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบเพื่อหล่อเลี้ยงตัวอสุจิ โดยในบางราย เช่น ชายที่เป็นหมันจะไม่มีการสร้างตัวอสุจิแต่ยังคงมี seminal fluid หรือน้ำกามอยู่
น้ำอสุจิที่ดี ตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกที่มีการระบุไว้เมื่อปี 2010 ระบุว่าเกณฑ์ของการวิเคราะห์น้ำอสุจิที่ถือว่าปกติ จะต้อง
- มีปริมาตร 1.5 - 5.0 มิลลิลิตร
- มีความหนาแน่นของตัวอสุจิมากกว่า 15 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร
- มีการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิเกินร้อยละ 40
- อสุจิมีรูปร่าง ลักษณะที่ดีจะมีรูปร่างลักษณะปกติ มากกว่า ร้อยละ 14
ทั้งนี้น้ำอสุจิซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์จะส่งผลให้ฃคุณแม่ตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้ยากเนื่องจากการตั้งครรภ์ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ตามปกติต้องมีตัวอสุจิที่หลั่งไปที่ช่องคลอดอย่างน้อย 10-15 ล้านตัวจึงจะเพียงพอเข้าไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่บริเวณปีกมดลูกได้ ดังนั้นสำหรับคู่สมรสที่ไม่ได้คุมกำเนิดและมีเพศสัมพันธ์ตามปกติคือ 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ภายใน 1 ปี หรือ 6 เดือนในรายที่ฝ่ายหญิงมีอายุมากกว่า 35 ปี แล้วไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ถือว่ามีความเหมาะสมที่ฝ่ายชายจะมาตรวจวิเคราะห์น้ำเชื้อเพื่อหาสาเหตุการมีบุตรยากต่อไป
โดยส่วนใหญ่แล้ว อสุจิจะมีความแข็งแรงหรืออ่อนแอก็เกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเพื่อรักษาคุณภาพของอสุจิให้ดีอยู่เสมอสิ่งที่ควรทำคือ
1. บริหารความเครียดไม่ให้มากเกินไปจนส่งผลต่อฮอร์โมนที่ผลิตอสุจิ
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดหรือลดแอลกอฮอล์และบุหรี่
3. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเสมอ
4. ออกกำลังกายแต่พอดี เพื่อเพิ่มปริมาณของเอนไซม์อนุมูลอิสระไว้ปกป้องอสุจิ
5. ป้องกันตนเองให้ห่างจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ด้วยการไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
และหากจะเฉพาะเจาะจงไปที่ “วัตถุดิบ” ของเมนูอาหารที่จะทำให้อาวุธของเหล่าคุณพ่ออย่างอสุจิเปี่ยมพลังและแข็งแรงเข้มข้นมากพอ วันนี้เราก็มีเคล็ดลับและรายชื่อของวัตถุดิบมาฝากกันด้วย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
ประเภทที่ 1 เนื้อสัตว์และไข่
- เนื้อวัว ประกอบด้วยสังกะสี ซีลีเนียม คาร์นิทีน และวิตามินบี 12 ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ช่วยเพิ่มทั้งปริมาณการผลิตจากอัณฑะ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแรงของอสุจิได้ด้วย และเพิ่มความเข้มข้นให้น้ำเชื้ออสุจิเข้มข้นส่งเสริมการเคลื่อนไหวที่ดีให้อสุจิด้วย
- ไข่ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการเพิ่มจำนวนอสุจิรวมทั้งความสามารถในการปรับปรุงการเคลื่อนไหวของอสุจิด้วยปริมาณวิตามินอีที่สูงและเต็มไปด้วยโปรตีน การกินไข่จะช่วยปกป้องเซลล์อสุจิจากอนุมูลอิสระที่สาเหตุหลักของการปริมาณอสุจิลดจำนวนลง นอกจากนี้ไข่ยังอุดมไปด้วยวิตามิน B1,2 วิตามินD และแคลเซียมต่างๆ ที่ช่วยในการรักษาระดับฮอร์โมนเพศชานและเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย
- หอยนางรม เป็นเรื่องทางความเชื่อที่หอยนางรมจะช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศ แต่เรื่องนี้เป็นความจริงที่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ เพราะ หอยนางรมนั้นมีปริมาณสังกะสีค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวัตถุดิบอื่นๆ ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณน้ำอสุจิและการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิได้ดี
ประเภทที่ 2 พืชและผลไม้
- ถั่ว มีความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพและการทำงานของสเปิร์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวอลนัทอาจช่วยเพิ่มคุณภาพของตัวอสุจิ นั่นเป็นเพราะวอลนัทเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและกรดไขมันโอเมก้า 3 นอกจากนี้การเลือกทานอัลมอนด์ พีแคน ไพน์นัท และเฮเซลนัทก็สามารถให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน ทั้งนี้ควรทานไม่เกินครั้งละ 1 กำมือ
- กระเทียม กระเทียมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพจำที่สามารถช่วยเพิ่มจำนวนสเปิร์มของคุณ และเป็นสารอาหารสำคัญของเหล่าอสุจิ อีกทั้งยังมีสารสำคัญอย่างอัลลิซิน ซึ่งช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่ของสเปิร์มและยังช่วยปรับระบบไหลเวียนของเลือดได้ดี แม้แต่ในส่วนของอวัยวะเพศเช่นกัน
- กล้วย เต็มไปด้วยวิตามินที่จำเป็นเช่น A, B1 และ C กล้วยส่งเสริมการผลิตสเปิร์มที่มีสุขภาพดีและช่วยเพิ่มผลผลิตของตัวอสุจิ นอกจากนี้ยังมี Bromelain ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยเพิ่มสุขภาพของตัวอสุจิ
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เนื่องจากผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่นั้นมีวิตามิน C สูง ซึ่งมีส่วนช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำเชื้อเข้มข้นและมีความสามารถได้ดีขึ้น ทั้งนี้สามารถเลือกทานได้ในหมดทั้งบลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์รี แบล็กเบอร์รี
- มะเขือเทศ มีปริมาณสารไลโคปีนจำนวนมาก ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงน้ำเชื้อและตัวอสุจิให้แข็งแรง และเพิ่มปริมาณให้มีมากกว่าปกติถึง 70% อีกทั้งยังช่วยในส่วนอื่ๆน ของระบบสืบพันธ์เพศชายด้วย
ประเภทที่ 3 น้ำดื่ม
- การผลิตน้ำอสุจิก็ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำของคุณด้วยเช่นกัน การที่ร่างกายขาดน้ำจึงอาจทำให้ปริมาณน้ำอสุจิลดลง การดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำทุกวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตรลดปัญหาดังกล่าวได้
แต่หากรับประทานอาหารครบทุกอย่างและดูแลตัวเองอย่างดีและสม่ำเสมอแล้ว ยังมีบุตรยากหรือทำอย่างไรคุณแม่ก็ไม่ตั้งครรภ์เสียที อาจต้องลองพิจารณาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยเรื่องการเจริญพันธุ์ในปัจจุบันเข้าช่วย ได้แก่การทำเด็กหลอดแก้ว (In Vitro Fertilization: IVF) , การคัดเชื้อเพื่อฉีดเข้าโพรงมดลูก (Intrauterine insemination: IUI) และ อิ๊กซี่ (Intracytoplasmic Sperm Injection: ICSI)
ซึ่งแต่ละวิธีนั้นควรได้รับการดูแลจากแพทย์ในโรงพยาบาลและคลินิกเฉพาะทางเพื่อปรึกษาขอคำแนะนำและตรวจวินิจฉัยปัจจัยต่าง ๆ ว่าสามารถทำได้หรือไม่ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะพิจารณาประวัติของผู้ป่วยและประวัติการรักษาที่ผ่านมา ข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง โอกาสประสบความสำเร็จ และแจ้งค่าใช้จ่ายในการทำเพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษาตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองอีกทีหนึ่ง จึงจะนับได้ว่าเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตรสำหรับผู้มีบุตรยากที่ครบสูตรนั้นเอง
อ้างอิง
https://bit.ly/3OY9F6N
https://bit.ly/3QfnjDy
https://beyondivf.com/best-food-for-sperm/
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาภาวะมีบุตรยาก
กับศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากจินตบุตร